"ความหรูหราเป็นภาษาสากล และเกิดจากการหลอมรวมกันของคุณภาพของแสง ที่ว่าง การใช้งาน และวัสดุ"
นี่คือแนวคิดของ Thomas Juul-Hansen สถาปนิกออกแบบชื่อดังชาวเดนมาร์ก ด้วยการออกแบบที่ผสานความเรียบหรูเข้ากับฟังก์ชันอย่างลงตัว ออกมาเป็นดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น หินและไม้เป็นหลัก เป็นลายเซ็นที่สร้างผลงานไปทั่วทุกมุมโลก จนได้รับการยอมรับให้เป็น "The Master of Modern Luxury"
Thomas สร้างชื่อเสียงจากผลงานที่หลากหลาย ทั้งที่พักอาศัย ไปจนถึงร้านอาหารดัง เช่น JEAN GEORGES สาขาซิกเนเจอร์ของเชฟชื่อดังระดับโลก Jean-Georges Vongerichten นอกจากนี้ยังเคยร่วมงานกับ Richard Meier & Partners Architects สถาปนิกระดับตำนานอีกด้วย
__________________________________________________________________________________________________________________________________
ปรัชญาการออกแบบที่ลึกซึ้งกว่าความหรูหรา
__________________________________________________________________________________________________________________________________
แนวคิดเรื่องความหรูหราที่ไม่ได้จำกัดอยู่ที่วัสดุราคาแพง แต่เป็นการมองในมิติที่ลึกซึ้งกว่า Thomas Juul-Hansen ให้ความสำคัญกับคุณภาพและการวางองค์ประกอบของวัสดุ โดยคำนึงถึงบริบทที่รายล้อมของสถานที่ ทั้งสภาพแวดล้อม ประโยชน์ใช้สอย และวัฒนธรรม เพื่อให้ภาพรวมของการออกแบบบาลานซ์ความสวยงามและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว
ผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากทั่วทุกมุมโลก
จากปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ Thomas จึงสร้างสรรค์ผลงานโดดเด่นไปทั่วโลก โดยเฉพาะการออกแบบที่พักอาศัยที่ Thomas Juul-Hansen เป็นผู้ออกแบบเพนต์เฮาส์ที่แพงที่สุดในนิวยอร์กและลอนดอน
One 57

ห้องชุดพักอาศัยมูลค่าสูงที่สุดในมหานครนิวยอร์กที่เป็นอาคารที่พักอาศัยสุดหรูแห่งแรกของ Billionare's row และได้รับขนานนามว่า The Billionaire Building โดย Thomas ใช้หินอ่อนและไม้โอ๊กเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง เพื่อสะท้อนความหรูหราและทันสมัย โดยปัจจุบันมีราคาสูงถึง 34 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1,175 ล้านบาท) และเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Thomas Juul-Hansen
Sutton Tower

อาคารที่พักอาศัยระฟ้าในนิวยอร์กที่ออกแบบมาให้บาลานซ์ระหว่างความโมเดิร์นและคลาสสิก ด้วยการผสมผสานฟาซาดที่ทำมาจากหินปูนและกรอบหน้าต่างสีดำที่เป็นเส้นตรงดูเรียบง่าย ส่วนยอดของอาคารใช้สเตนเลสสีแชมเปญที่เป็นจุดเด่นของโครงสร้างแบบ 'Old Newyork Landmark' นอกจากนี้ยังออกแบบให้อาคารมี Multi-Perspective โดยภาพจากด้านล่างอาคารและส่วนยอดของอาคารจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ความท้าทายใหม่ในการออกแบบที่พักอาศัยระดับ World-Class ในกรุงเทพฯ
หลังจากได้ร่วมงานกับโปรเจกต์ต่าง ๆ รอบโลก ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก ฟลอริดา ดูไบ ไต้หวัน Thomas ก็ได้ร่วมออกแบบโครงการคอนโดมิเนียมครั้งแรกในเอเชียกับโครงการ 'SCOPE Langsuan' ซึ่งได้รับการชักชวนจากคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สโคป จำกัด เพื่อสร้างโครงการ Flagship ของสโคป ที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ในการสร้างที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์และคุณภาพเทียบเท่าระดับสากล บนทำเลที่ดีที่สุดของประเทศ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม International Premium ที่มีประสบการณ์ มีโอกาสเห็นที่อยู่อาศัยดี ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะจากการท่องโลกอินเทร์เน็ต หรือ จากการเดินทาง ทำให้เข้าใจและเห็นในคุณค่าของสิ่งของและรายละเอียดที่สโคปมอบให้
SCOPE Langsuan: มาตรฐานใหม่แห่งความหรูหรา

"วิสัยทัศน์ของคุณยงยุทธกระตุ้นให้ผมและทีมงานทำสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากลูกค้าโครงการอื่นที่เน้นประหยัดงบ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ โครงการนี้สร้างมาตรฐานใหม่ซึ่งสูงสุดเท่าที่ผมเคยทำงานมา สูงกว่าหลายเจ้าที่เคยทำในนิวยอร์ก" Thomas ให้สัมภาษณ์เมื่อมาออกแบบให้กับ "SCOPE Langsuan" โครงการ Ultimate Luxury Residence
เขามองว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งแสงสว่างและความปลอดโปร่ง ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นและแสงแดด ซึ่ง Thomas จึงเลือกใช้วัสดุและสีสันโทนสว่าง โปร่งสบาย และดูแล้วมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ Thomas ยังเชื่อว่าแสงธรรมชาติคือกุญแจสู่ความสุขภายในบ้าน ห้องพักของ SCOPE Langsuan จึงออกแบบมามีหน้าต่างเต็มความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน เพื่อรับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ โดยติดตั้งหน้าต่างพร้อมกระจกชนิดโลว์อีหนาพิเศษ เพื่อควบคุมระดับความร้อนจากภายนอก

ในส่วนของการตกแต่ง Thomas ยังคงใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อเสริมความรู้สึกอบอุ่น สบาย และสงบ เช่น ล็อบบี้ชั้น 1 ที่ใช้แชนเดอเลียร์จากหินโมราสีชมพู ออกแบบให้กับโครงการโดยเฉพาะเพื่อให้เข้ากับเคาน์เตอร์ Concierge หินอ่อนสีเขียว
ห้องชุดแต่ละยูนิต Thomas คัดเลือกเฟอร์นิเจอร์และวัสดุต่างๆที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความสวยงามได้อย่างลงตัว เช่น ชุดครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำจากเยอรมนี อย่าง Bulthaup และ Gaggenau เคาน์เตอร์ที่ทำจากหินทัชมาฮาลควอตไซต์ ที่ใช้หินเนื้อเดียวกันทั้งผืนที่นอกจากจะเน้นความสวยงานแล้ว ยังสามารถปกป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี คงทนถาวร พร้อมทั้งตู้รองเท้าที่ออกแบบมาให้เก็บได้นับร้อยคู่ ไปจนถึง Walk-in closet แบรนด์ Lema จากอิตาลี และเฟอร์นิเจอร์อีกหลายชิ้นที่ Thomas เป็นผู้ออกแบบขึ้นใหม่
SCOPE THONGLOR : Less, but Lasting ดีไซน์ที่ผ่านการคิดมาอย่างละเอียดพิถีพิถัน เพื่อความรู้สึกที่เหนือกาลเวลา

Thomas สานต่อความเป็นมาสเตอร์พีซกับสโคปในโปรเจกต์ใหม่ล่าสุด "SCOPE Thonglor" โครงการ All-Penthouse ระดับ Ultimate Luxury โดยเป็นที่ปรึกษาการออกแบบทั้งภายนอกและภายในอาคาร เพื่อส่งมอบดีไซน์และคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมให้กับผู้พักอาศัยทั้ง 18 หลัง
Thomas Juul-Hansen ต้องการสะท้อนวิธีคิดที่ให้ความสำคัญกับ "พื้นที่และวัสดุ" ผ่านการออกแบบภายนอกที่ใช้หินธรรมชาตินำเข้าจากอิตาลีทั้งอาคาร และใส่ความพิถีพิถันเข้าไปในทุกรายละเอียดดีไซน์ ภายใต้แนวคิด "Less, but Lasting" ความเรียบง่ายที่ยืนยาวเหนือกาลเวลา จึงเป็นเหตุผลให้ SCOPE Thonglor มีไฮไลต์คือ เฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น 1stDibs, FontanaArte, Cassina หรือ Gubi ที่มีมูลค่ารวมกว่า 41.5 ล้านบาท และมีจำนวนกว่า 30 ชิ้นภายใน Penthouse

ในห้องนั่งเล่นของ Penthouse ทองหล่อ ต้อนรับผู้อยู่อาศัยด้วยบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงเหมือนอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูของนิวยอร์ก มองเห็นวิวกว้างจากทองหล่อไปจนถึงพร้อมพงษ์ได้จากกระจกเต็มบาน กับความสูงพื้นจรดฝ้า 3.2 เมตร ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง เข้ากับเฟอร์นิเจอร์โทนสีธรรมชาติที่สบายตา
เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับชุดโต๊ะกาแฟ Luca and Andrea Coffee Table by Umberto Bellardi Ricci จาก 1stDibs ซึ่งด้านบนเป็นหิน Travertine ถูกตัดเป็น Organic form ส่วนขาโต๊ะห่อหุ้มด้วย Bronze ถัดจากโต๊ะกาแฟคือโซฟา Tacchini Sesann Sofa โดย Gianfranco Frattini ที่เป็นเบาะนุ่มหุ้มด้วยผ้าหรือหนังคอนทราสต์กับโครงเหล็กมันเงาและฐานไม้ Ash

ส่วนของห้อง Master bedroom เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับตู้ Niguel Cabinet (Lawson-Fenning) ที่โดดเด่นด้วยสีและลายไม้ โดยมีบานเปิดทั้งสองข้างและลิ้นชักตรงกลาง และชิ้นส่วนทองเหลืองที่ประกอบอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของตู้ ช่วยขับเน้นบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่นในห้องนอน
เฟอร์นิเจอร์ชุดพิเศษคัดสรรโดย Thomas มีเพียง 3 ชุดเท่านั้น โดย Thomas ให้ความสำคัญกับการจัดสรรพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน และการเลือกใช้วัสดุชั้นเยี่ยม เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้อยู่อาศัยเป็นพิเศษ เพียง 3 ครอบครัวเท่านั้น
__________________________________________________________________________________________________________________________________
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
- เว็บไซต์: https://www.scopecollection.com/residences/scope-promsri/
- Instagram: scopecollection
- Facebook: scopecollection
- โทรศัพท์: 02 028 9788