ในอดีต ปัจจัยหลักที่เป็นตัวกำหนดมูลค่าโครงการคอนโด ได้แก่ ทำเล การเข้าถึงรถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ปัจจัยเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง หรือ Demographic Disruption โดยอัตราการเกิดลดลงทั่วโลก ขณะที่จำนวนสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสัตว์เลี้ยงที่เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยง หรือ Pet Economy ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล และกลายเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียม
จาก Pet Ownership สู่ Pet Parenting
ปรากฏการณ์ Pet Humanization คือการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่มีพฤติกรรมแบบ DINKs (Dual Income, No Kids) คือคู่รักที่มีรายได้สองทางแต่ไม่มีลูก หรือแม้แต่กลุ่มคนโสดรายได้สูง
ในปัจจุบัน หลายคนมองว่าการมีลูกต้องเตรียมความพร้อมมากขึ้น สัตว์เลี้ยงจึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการดูแลและเติมเต็มความอบอุ่นในชีวิต และจึงเป็นเหตุผลที่คนในปัจจุบันหันมาเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยคนกลุ่มนี้มองหาที่พักอาศัย อย่างบ้าน หรือ โครงการคอนโด ที่เข้าใจในความต้องการของตนเอง และยอมจ่ายค่าเช่าที่สูงกว่าตลาดได้ทันที หากที่พักนั้นตอบโจทย์ชีวิตของสัตว์เลี้ยงได้อย่างแท้จริง
Supply Gap: เมื่อคอนโดส่วนใหญ่อาจไม่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยกับสัตว์เลี้ยงได้ครบทุกด้าน
ความต้องการสูงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโด อาจปรับตัวไม่ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค
- คอนโดกรุงเทพ ส่วนใหญ่: ยังคงห้ามเลี้ยงสัตว์ (No Pets Allowed)
- คอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยง: ส่วนใหญ่มักเป็นการอนุญาตแบบพื้นฐานโดยไม่มีพื้นที่ส่วนกลางและบริการที่รองรับสัตว์เลี้ยงอย่างจริงจัง รวมถึงไม่มีการจัดการกฎระเบียบที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ทั้งความเสียหายต่อห้องพัก การร้องเรียนเรื่องเสียงจากเพื่อนบ้าน และสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย
คอนโดเพื่อการลงทุน ที่เป็น "Genuine Pet-Friendly" ที่ออกแบบโครงสร้างพื้นฐานมาเพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ จึงเปรียบเสมือนการถือครองสินทรัพย์ที่หาได้ยากในตลาดเช่า โดยเฉพาะในทำเล Prime Area ที่มีราคาที่ดินสูง
High-Yield Asset คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ที่ช่วยเพิ่มรายได้จากค่าเช่าที่สูงขึ้น

การจะดึงดูดผู้เช่ากลุ่ม Pet Parents ไม่ใช่แค่การบอกว่าเป็นโครงการ Pet-Friendly แต่ต้องเข้าใจกการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง
โดย โครงการคอนโด เลี้ยงสัตว์ได้ ที่น่าลงทุนต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก :
The Value of Silence : เมื่อความเงียบสงบคือปัจจัยสำคัญ

ความกังวลอันดับต้น ๆ ของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดคือ "เสียง" ทั้งเสียงจากภายนอกที่ทำให้สัตว์ตกใจ รวมถึงเสียงสัตว์ที่รบกวนเพื่อนบ้าน
โครงการคอนโด ที่น่าลงทุน ต้องมีการออกแบบที่เข้าใจเรื่องเสียง เช่น การใช้กระจก Laminated ที่มีฟิล์มกันเสียง หรือกรอบประตูหน้าต่างแบบ Soundproof ซึ่งเป็นรายละเอียดที่คอนโดทั่วไปมักมองข้าม แต่สิ่งนี้เป็นตัวชี้วัดได้ว่าโครงการนี้ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด และเป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ
Hygiene & Durability : การดูแลรักษาความสะอาด และความทนทนถาวรของวัสดุ

สัตว์เลี้ยงกับความสะอาดเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กัน โครงการคอนโด ที่ออกแบบให้เลี้ยงสัตว์ได้จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งบริการทำความสะอาดต่าง ๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในห้องที่ต้องทนทาน และทำความสะอาดง่าย
การมีบริการ Inclusive Housekeeping หรือแม่บ้านที่ได้รับการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญในการดูแลทำความสะอาดวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อดูแลห้องที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็น Value Added ที่มหาศาล เพราะช่วยลดภาระของผู้เช่า และช่วยรักษาสภาพห้องของนักลงทุนให้ใหม่เสมอ
พื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ให้มากกว่ามาตรฐานทั่วไป

โครงการคอนโด ที่ไม่ได้เพียงอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ แต่เป็น Community ที่มีคนเลี้ยงสัตว์ภายใต้การบริหารจัดการของ ACQUA อย่างมืออาชีพ
- Pet Facilities โครงการควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับสัตว์เลี้ยงอย่างครบครัน ตั้งแต่พื้นที่เดินเล่น (dogyard) และสนามหญ้าซึ่งเป็นมาตรฐานพื้นฐาน ไปจนถึงจุดทิ้งขยะสำหรับสัตว์เลี้ยง (pet waste station) และห้อง Pet Care พร้อมบริการดูแลสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ ที่มีพนักงานประจำให้บริการ รวมทั้งบริการอาบน้ำ ตัดขน และฝากเลี้ยงระหว่างวัน ซึ่งเป็นบริการที่หาได้ยากในคอนโดทั่วไป
SCOPE PROMSRI มาตรฐานใหม่ของการพัฒนา โครงการคอนโด Pet Friendly
SCOPE PROMSRI สร้างความแตกต่าง ไม่ใช่เพียงตลาด คอนโดหรู ที่เป็น Pet Friendly แต่ยังเลือกจับกลุ่มลูกค้าระดับ International Premium ที่เข้าใจคุณภาพของวัสดุ แบรนด์ต่าง ๆ ในระดับสากล และให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัย
สิ่งที่ทำให้โครงการนี้น่าสนใจในมุมมองการลงทุน ไม่ใช่แค่ความหรูหรา แต่คือการแก้ Pain Point ของตลาด Pet Economy ได้ครบทุกมิติ:
- แก้ปัญหาเรื่องเสียง: ด้วยการใช้กระจกกันเสียงและฟิล์ม Acoustic ซึ่งหาได้ยากมากในโครงการ คอนโด Low rise
- แก้ไขปัญหาภาระการเลี้ยงสัตว์: ด้วยพื้นที่ส่วนกลางห้อง Pet Care ที่มีพนักงานดูแลทุกวัน พร้อมบริการฝากเลี้ยงระหว่างวัน อาบน้ำ และตัดขน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เลี้ยงสัตว์
- แก้ปัญหาเรื่อง Maintenance: เฟอร์นิเจอร์ใช้แบรนด์ระดับโลกอย่าง Ligne Roset ที่สวยงาม คงทนถาวร พร้อมดีไซน์ Timeless ใช้ได้ระยะยาว และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคอนโดในตลาดเช่าทั่วไป
เลือกลงทุนกับสินทรัพย์คุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง
การเลือกลงทุนในคอนโดมิเนียมที่เข้าใจ Insight นี้อย่างลึกซึ้งแบบที่ คอนโดสุขุมวิท อย่าง SCOPE PROMSRI ทำ จึงไม่ใช่เพียงแค่การซื้ออสังหาฯ แต่เป็นการลงทุนใน คุณภาพชีวิตผู้เลี้ยงสัตว์ และสัตว์เลี้ยงได้อย่างชัดเจน จากการเลือกโครงการคอนโด ที่พัฒนาจากความเข้าใจผู้พักอาศัย
หากกำลังมองหาคอนโดเพื่อการลงทุนที่ตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์อย่างแท้จริง ที่เข้าใจความต้องการของผู้พักอาศัย SCOPE PROMSRI ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการ ลงทุนคอนโดปล่อยเช่า